มาตรฐานโปรโตคอลของ Xiaomi Router BE3600 คืออะไร?
*หน้านี้ถูกแปลโดยอัตโนมัติจากบทความภาษาอังกฤษ
Xiaomi Router BE3600 รองรับมาตรฐานเครือข่ายไร้สายและแบบมีสายที่หลากหลาย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่างๆ
มาตรฐานไร้สายมีดังนี้:
1. IEEE 802.11a ทํางานในย่านความถี่ 5GHz ให้ความเร็วสูงสุด 54Mbps มีอัตราข้อมูลที่สูงกว่าและการรบกวนน้อยกว่าเครือข่าย 2.4GHz อย่างไรก็ตาม มีช่วงที่สั้นกว่า
2. IEEE 802.11b ทํางานที่ 2.4GHz ซึ่งให้ความเร็วสูงสุด 11Mbps แม้ว่าจะมีช่วงที่ยาวกว่า แต่ก็อ่อนไหวต่อการรบกวนจากอุปกรณ์อื่นที่ใช้ความถี่เดียวกันมากกว่า
3. IEEE 802.11g ผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของ 802.11a และ 802.11b ซึ่งทํางานที่ 2.4GHz และให้ความเร็วสูงสุด 54Mbps เข้ากันได้กับอุปกรณ์ 802.11b แบบย้อนหลัง
4. IEEE 802.11n ใช้เทคโนโลยี Multiple Input Multiple Output (MIMO) ทําให้สามารถสตรีมข้อมูลได้หลายรายการ สามารถทํางานได้ทั้งบนย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz ให้ความเร็วสูงถึง 600Mbps ช่วยเพิ่มช่วงและประสิทธิภาพได้อย่างมาก
5. IEEE 802.11ac หรือที่เรียกว่า Wi-Fi 5 ทํางานในย่านความถี่ 5GHz และสามารถให้ความเร็วเกิน 1Gbps โดยใช้ช่องสัญญาณที่กว้างขึ้นและเทคนิค MIMO ขั้นสูง ได้รับการปรับให้เหมาะสมสําหรับแอปพลิเคชันแบนด์วิดท์สูง เช่น การสตรีมวิดีโอและเกมออนไลน์
6. IEEE 802.11ax หรือที่เรียกว่า Wi-Fi 6 เป็นมาตรฐานล่าสุดที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและความจุของเครือข่ายโดยรวม ทํางานทั้งในย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz รองรับความเร็วสูงสุด 9.6Gbps;
7. IEEE 802.11be หรือที่เรียกว่า Wi-Fi 7 มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความเร็วที่เร็วขึ้นและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาพแวดล้อมที่หนาแน่น ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ เช่น การทํางานแบบมัลติลิงค์ ทําให้อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกับหลายช่องสัญญาณพร้อมกันเพื่อแบนด์วิดท์ที่มากขึ้น
มาตรฐานแบบมีสายมีดังนี้:
1. IEEE 802.3 กําหนดเลเยอร์ทางกายภาพและการควบคุมการเข้าถึงสื่อ (MAC) สําหรับเครือข่ายอีเทอร์เน็ตแบบมีสาย โดยระบุการทํางานพื้นฐานของอีเธอร์เน็ต
2. IEEE 802.3u ซึ่งเป็นส่วนขยายของ 802.3 แนะนํา Fast Ethernet ให้ความเร็วสูงสุด 100Mbps ผ่านสายคู่บิดเกลียวและสายไฟเบอร์ออปติก
3. IEEE 802.3ab ระบุ Gigabit Ethernet ผ่านสายเคเบิลทองแดง (1000BASE-T) ทําให้มีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 1Gbps ผ่านสายเคเบิลประเภท 5 มาตรฐาน
4. IEEE 802.3bz หรือที่เรียกว่า 2.5G/5GBASE-T รองรับความเร็วหลายกิกะบิต (2.5 และ 5Gbps) ผ่านสายเคเบิล Cat 5e และ Cat 6 ที่มีอยู่ ทําให้เหมาะสําหรับสภาพแวดล้อมเครือข่ายความเร็วสูงโดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่
มาตรฐานไร้สายมีดังนี้:
1. IEEE 802.11a ทํางานในย่านความถี่ 5GHz ให้ความเร็วสูงสุด 54Mbps มีอัตราข้อมูลที่สูงกว่าและการรบกวนน้อยกว่าเครือข่าย 2.4GHz อย่างไรก็ตาม มีช่วงที่สั้นกว่า
2. IEEE 802.11b ทํางานที่ 2.4GHz ซึ่งให้ความเร็วสูงสุด 11Mbps แม้ว่าจะมีช่วงที่ยาวกว่า แต่ก็อ่อนไหวต่อการรบกวนจากอุปกรณ์อื่นที่ใช้ความถี่เดียวกันมากกว่า
3. IEEE 802.11g ผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของ 802.11a และ 802.11b ซึ่งทํางานที่ 2.4GHz และให้ความเร็วสูงสุด 54Mbps เข้ากันได้กับอุปกรณ์ 802.11b แบบย้อนหลัง
4. IEEE 802.11n ใช้เทคโนโลยี Multiple Input Multiple Output (MIMO) ทําให้สามารถสตรีมข้อมูลได้หลายรายการ สามารถทํางานได้ทั้งบนย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz ให้ความเร็วสูงถึง 600Mbps ช่วยเพิ่มช่วงและประสิทธิภาพได้อย่างมาก
5. IEEE 802.11ac หรือที่เรียกว่า Wi-Fi 5 ทํางานในย่านความถี่ 5GHz และสามารถให้ความเร็วเกิน 1Gbps โดยใช้ช่องสัญญาณที่กว้างขึ้นและเทคนิค MIMO ขั้นสูง ได้รับการปรับให้เหมาะสมสําหรับแอปพลิเคชันแบนด์วิดท์สูง เช่น การสตรีมวิดีโอและเกมออนไลน์
6. IEEE 802.11ax หรือที่เรียกว่า Wi-Fi 6 เป็นมาตรฐานล่าสุดที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและความจุของเครือข่ายโดยรวม ทํางานทั้งในย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz รองรับความเร็วสูงสุด 9.6Gbps;
7. IEEE 802.11be หรือที่เรียกว่า Wi-Fi 7 มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความเร็วที่เร็วขึ้นและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาพแวดล้อมที่หนาแน่น ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ เช่น การทํางานแบบมัลติลิงค์ ทําให้อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกับหลายช่องสัญญาณพร้อมกันเพื่อแบนด์วิดท์ที่มากขึ้น
มาตรฐานแบบมีสายมีดังนี้:
1. IEEE 802.3 กําหนดเลเยอร์ทางกายภาพและการควบคุมการเข้าถึงสื่อ (MAC) สําหรับเครือข่ายอีเทอร์เน็ตแบบมีสาย โดยระบุการทํางานพื้นฐานของอีเธอร์เน็ต
2. IEEE 802.3u ซึ่งเป็นส่วนขยายของ 802.3 แนะนํา Fast Ethernet ให้ความเร็วสูงสุด 100Mbps ผ่านสายคู่บิดเกลียวและสายไฟเบอร์ออปติก
3. IEEE 802.3ab ระบุ Gigabit Ethernet ผ่านสายเคเบิลทองแดง (1000BASE-T) ทําให้มีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 1Gbps ผ่านสายเคเบิลประเภท 5 มาตรฐาน
4. IEEE 802.3bz หรือที่เรียกว่า 2.5G/5GBASE-T รองรับความเร็วหลายกิกะบิต (2.5 และ 5Gbps) ผ่านสายเคเบิล Cat 5e และ Cat 6 ที่มีอยู่ ทําให้เหมาะสําหรับสภาพแวดล้อมเครือข่ายความเร็วสูงโดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่
ข้อมูลนี้ช่วยคุณได้หรือไม่
ใช่
ไม่ใช่