*หน้านี้ถูกแปลโดยอัตโนมัติจากบทความภาษาอังกฤษ
แนะนําฟังก์ชั่น:
1. PIN (Personal Identification Number1) : เป็นรหัสประจําตัวส่วนบุคคลของซิมการ์ด หากไม่แก้ไขโดยผู้ใช้ต้นฉบับ
รหัสผ่านที่กําหนดโดยผู้ให้บริการคือ 1234 หรือ 0000 หากเปิดใช้งาน PIN จะต้องป้อน PIN 4 หลักในการเปิดเครื่องแต่ละครั้ง รหัส PIN สามารถ
แก้ไขเพื่อป้องกันซิมการ์ดจากการถูกใช้โดยผู้อื่น ควรสังเกตว่าหากป้อนรหัส PIN ผิดสามครั้งโทรศัพท์จะ
ล็อคการ์ดโดยอัตโนมัติและแจ้งให้ป้อนรหัส PUK เพื่อปลดล็อก ดังนั้นหากแก้ไขรหัส PIN โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่าลืมจําไว้
2. รหัส PIN2 (Personal Identification Number2) อยู่ในฟังก์ชันเฉพาะ (เช่นการตั้งค่าหมายเลขคงที่ตั้งค่าการโทร ฯลฯ ) ต้องป้อน
หมายเลขประจําตัวส่วนบุคคล รหัส Pin2 มีให้โดยซัพพลายเออร์ของซิมการ์ดไปยังรหัสผ่านอื่นที่ใช้ในการ จํากัด ฟังก์ชั่นการเรียกผ่านสายโทรศัพท์
เช่น PIN ส่วนใหญ่จะใช้สําหรับการกําจัดสกุลเงินการเรียกเก็บเงินรวมไม่เรียกข้อมูลต้นทุนการตั้งค่าและหน่วยการคํานวณฟังก์ชัน จํากัด ขีด จํากัด dial-up
3. รหัส PUK (PUK1): ประกอบด้วยตัวเลขแปดหลักซึ่งผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อ PIN ของโทรศัพท์ถูกล็อคและแจ้งให้ป้อนรหัส PUK
มีโอกาสเพียง 10 ครั้งในการป้อนรหัส PUK หากป้อนข้อมูลไม่ถูกต้อง 10 ครั้งซิมการ์ดจะถูกล็อคอย่างถาวรนั่นคือทิ้ง ส่วนหนึ่งของ
รหัส PUK ที่มีซิมการ์ดคือผู้ใช้ในเวลาที่ซื้อโดยแนบการ์ดในขณะที่คนอื่น ๆ จําเป็นต้องอ้างสิทธิ์หาก PIN ถูกล็อคและ
ไม่ทราบรหัส PUK อย่าป้อนข้อมูลอย่างแท้จริงในเวลานี้ควรโทรไปที่สายด่วนบริการของผู้ให้บริการซิมการ์ดหลังจากข้อมูลผู้ใช้เพื่อตรวจสอบสามารถรับรหัส PUK ปลดล็อกโทรศัพท์ได้
4. รหัส PUK (PUK2): PUK2 ปลดล็อกรหัส PIN2 ซึ่งใช้เพื่อปลดล็อกบริการและฟังก์ชัน มีหลายบริการ: การเรียกเก็บเงินค่าโทรสําหรับค่าโทรเป็นศูนย์
ข้อ จํากัด ด้านต้นทุน ราคาและอัตรา หน้าปัดคงที่ ในการใช้คุณสมบัติเหล่านี้ขอแนะนําให้พิมพ์รหัส PIN2 และหากพิมพ์ผิดสามครั้งจะถูกล็อค การพิมพ์ PUK2 ไม่ถูกต้อง
10 ครั้งติดต่อกันจะล็อคการทํางานของบริการที่สามารถเปิดได้ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อฟังก์ชันอื่น ๆ